ทำไมเกมไร้ชีวิต เพราะส่วนใหญ่เน้น ไปที่ความสนุก ในขณะเล่นเกม มากเกินไปจนมากกว่าของ เกม Open – World

ทำไมเกมไร้ชีวิต เกม Open – World เกมอิสระ ซึ่งบางครั้งก็ทำ ออกมาได้ว่างเปล่า

ทำไมเกมไร้ชีวิต มากันอีกแล้วค่ะ กับการรีวิวเกม ในโลกของ โอเพ่น เวิลด์ ที่หลาย ๆ คนปรารถนาจะเล่น เพราะเป็นเกมที่ สามารถจะเลือก รูปแบบการเล่น ได้อย่างอิสระ โดยปกติแล้ว เกมส่วนใหญ่นั้น จะมีรูปแบบการเล่น แบบเฉพาะเจาะจง ถึงเป้าหมายในการเล่น

ซึ่งต่างออกไป จากเกมนี้โดยสิ้นเชิง เพื่อให้ผู้เล่น ได้รู้สึกและ เลือกทำสิ่งต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ นอกจากนี้แล้ว เกมยังพาทุกคน ไปสู่โลกแห่งเกม ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นแนวเกมที่ ดึงดูดผู้เล่น ได้ดีเลยทีเดียว

เกม โอเพ่น เวิลด์ หลายเกมที่ได้ สามารถทำออกมา ได้น่าประทับใจ จนได้กลายเป็น เกมที่นิยม เล่นกันอย่างมาก แต่ในทางตรงกันข้าม บางเกมก็ได้มี การทำออกมา แล้วดูเหมือนว่า ไม่น่าสนใจ

จนได้กลายเป็น เกมที่น่าเบื่อแบบมีถาม ทำไมเกมไร้ชีวิต และกลายเป็นเกม ที่มีชื่อเสียง ในทิศทางลบซะมากกว่า ซึ่งวันนี้เรา จะพาเพื่อน ๆ ไปช่วยวิเคราะห์ แนวเกมประเภทนี้กันค่ะ ใครที่พร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

ทำไมเกมไร้ชีวิต

ทำไมเกมไร้ชีวิต จุดแข็งที่ทำให้เกม Open – World เป็นที่รู้จัก

หรือจะเป็นเพราะว่า ทำไมเกมไร้ชีวิต อย่างที่เรานั้น ต่างก็ได้ทราบ กันดีแล้วว่าเกม โอเพ่น เวิลด์ 5 เป็นเกมที่ได้ ออกแบบมาให้ ผู้เล่นสามารถ เลือกที่จะใช้ ชีวิตแบบอิสระ ดังนั้นรูปแบบของแผน ที่ใช้ในการเดินทางต่าง ๆ จึงได้ถูกสร้าง ไว้อย่างเสรี โดยที่เพื่อน ๆ ก็จะสามารถ เลือกว่าจะเดินไป ในทิศทางไหน

ซึ่งต่างจากเกม ที่มีการกำหนดแผน ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้เล่น เดินไปทิศทาง ที่เกมต้องการ ซึ่งเกมแนวนี้ ได้ถูกสร้างขึ้น ตั้งแต่เมื่อปี 1980 และเกมที่เป็น กระแสยอดฮิต ในสมัยนั้น ที่ทำให้ผู้คนสนใจ กันเป็นอย่างมากนั้น

ก็คือเกมเพลสเตชั่น 2 อย่าง Grand Theft Auto II เรียกได้ว่าเกมนี้ เปิดตัวได้น่าสนใจ และได้กลายเป็น ที่รู้จักกันดี ในสมัยนั้น ต่อมาอีกไม่นาน ก็ได้มีการ เปิดตัวเกมใหม่อย่าง GTA III ที่ตัวเกมนั้น มีการสร้างเควส ในการเก็บไอเท็มลับต่าง ๆ

หากว่าผู้เล่น สามารถจะหา ไอเทมเหล่านั้น ได้เจอจนครบตามจำนวน ที่ระบบเกมตั้งไว้ เพื่อน ๆ ก็จะสามารถ ได้รับรางวัลต่าง ๆ ได้ซึ่งรางวัล ที่ได้ก็คือ อุปกรณ์หรือ ไอเทมต่าง ๆ ซึ่งมีการสร้าง ลูกเล่นในเกม ในสมัยนั้นทำ GTA ได้รับความสนใจ อย่างมากในตอนนั้น

เกมที่นิยม

จุดด้อยที่บ่งบอก ถึงความน่าเบื่อของเกม Open – World

ซึ่งหลังจากที่ได้ รับความนิยมอย่างมาก จึงทำให้เกมอื่น ๆ ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาเพื่อ ทำรูปแบบเกม โอเพ่น เวิลด์ ในรูปแบบของตัวเอง โดยการที่ใช้ โครงสร้างหลักของเกม เป็นในทิศทางเดียวกับเกม GTA หรือเรียกได้ว่า โคลนเกมกันมา เลยทีเดียวค่ะ

จนได้มีหลายกระแส ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำไมเกมไร้ชีวิต และเกมดังกล่าวว่า ไม่มีจุดเด่น ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถึงแม้ว่า GTA ในปัจจุบันได้มี การพัฒนาเกมต่อ เพื่อให้จุดเด่น ที่แตกต่างจากเดิม มากขึ้นในรูปแบบ ของเกมอิสระ และยังไม่มี เกมไหนที่สามารถ ทำออกมาได้ จนเหมือนกันกับ GTA

และหากจะพูด ถึงเกมแนวนี้ คนส่วนใหญ่ก็ยัง คงนึกถึงเกม GTA กันอยู่เสมอ การวิพากษ์และต้องถาม ทำไมเกมไร้ชีวิต การที่วิจารณ์ เกมแนวนี้นั้น ได้มีอยู่ต่อเนื่องตลอด ระยะเวลาหลายปี เพื่อเปรียบเทียบระหว่าง ความสนุกและ ความน่าเบื่อนั่นเอง

GTA III

เหตุที่ให้เกม Open – World บางเกมไม่สามารถ จะสร้างตัวตน ที่แตกต่างได้

เมื่อได้สอบถาม จากความคิดเห็น ของคนใกล้ตัว ก็ได้มีการ อธิบายไว้ง่าย ๆ ดังนี้คือว่า การสร้างเกมแนวนี้ จำเป็นจะต้อง อาศัยความเข้าใจ ในตัวของเกม และการสร้างเกม ให้มีภาพสวย และมีพื้นที่ ในการเดินทางมาก ๆ

นั่นจึงไม่ใช่ จุดสำคัญในการสร้างเกม Open World แต่เป็นการสร้างเกม ที่ทำให้ผู้เล่น สามารถเข้าถึง ความรู้สึกจริง และมีความเกี่ยวข้อง กับชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องสภาพแวดล้อม หรือการมีความสัมพันธ์ ร่วมกันกับบุคคลอื่น ๆ ซึ่งจุดนี้ทำให้ ตัวเกมนั้นมี ความน่าสนใจ มากขึ้นนั่นเอง

จุดเด่นหลักๆ ที่สามารถทำให้ เกมดูน่าสนใจมากขึ้น

1. การสร้างกิจกรรม เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเกมและ หากต้องการที่จะ ให้ผู้เล่นสามารถ เข้าสู่สังคม ได้อย่างตื่นเต้น ก็ควรมีการ ทำกิจกรรมต่าง ๆ มาช่วยเสริมเพื่อ สร้างความน่าตื่นเต้นเล็ก ๆ ให้กับผู้เล่น

ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมยามว่าง หรือเป็นกิจกรรม ที่สามารถเล่น กับผู้อื่นได้ ซึ่งเมื่อได้มี กิจกรรมเสริมเพิ่มขึ้นมา ก็ทำให้ผู้เล่น สามารถกระตุ้น ผู้เล่นให้มีความ เพลิดเพลินได้มากยิ่งขึ้น

2. การสร้างเหตุการณ์สุ่ม ขึ้นในระหว่างการเดินทาง ซึ่งการเดินทางที่มี เป้าหมายอย่างเดียว ก็จะทำให้ เกมดูน่าเบื่อ การเดินไปเดินมา และทำสิ่งต่าง ๆ ได้แบบโดยง่าย จะทำให้เกม นั้นขาดสีสันบางอย่าง

และเมื่อเล่นกันมาก ๆ ก็จะทำให้ รู้สึกเฉย ๆ และเลิกเล่นในที่สุด ดังนั้นการที่ได้เพิ่ม เหตุการณ์บางอย่าง เข้ามาในช่วง ระหว่างการเดินทาง ก็ยิ่งทำให้ คุณค่าของเป้าหมาย ดูมีค่ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์อุบัติเหตุ

ที่ผู้เล่นจำเป็น จะต้องเข้าไปช่วยเหลือ หรือมีการโทรสารเข้ามา เพื่อให้ผู้เล่น ต้องทำภารกิจ บางอย่างก่อนที่จะ ทำการเดินทางต่อ หรือแม้แต่การสร้าง สถานการณ์ฝนตก ก็ทำให้ผู้เล่น จำเป็นจะต้องทำการ หาออฟชั่นเสริม เพื่อให้การเดินทาง ที่ราบรื่นมากยิ่งขึ้น

3. การคิดถึงความสนุก มากกว่าพื้นที่ในเกม เกม Open-World ส่วนใหญ่มักเน้น ไปที่พื้นที่กว้าง ที่เดินทางได้ อย่างสุดลูกหูลูกตา แต่สภาพแวดล้อมโดยรวม ขาดหลายสิ่งที่ เป็นจุดเด่นและน่าสนใจ ดังนั้นการสร้าง เกมแนวนี้

จึงไม่จำเป็น จะต้องให้พื้นที่ สำหรับผู้เล่นได้ใช้ จำนวนมากนัก แต่ต้องคำนึง ถึงสภาพแวดล้อม ที่น่าสนใจ ที่จะสามารถ สร้างอารมณ์ที่ทำให้ ผู้เล่นสามารถ คิดไอเดียต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ

ดังนั้นจุดประสงค์หลัก ของการเล่นเกมที่แท้จริง ในรูปแบบของเกม Open-World ยังคงต้องมี สิ่งที่น่าสนใจ ที่จะทำให้ ผู้เล่นรู้สึก ตื่นเต้นไปพร้อมกับ การมีอิสระ ในการเลือกเล่นนั่นเอง การสร้างเกมที่ ดูไร้จุดประสงค์ จนเกินไปนั้น ก็อาจทำให้ ลดคุณค่าของเกม ลงในที่สุด จนกลายเป็นเกม ที่น่าเบื่อนั่นเอง

เพื่อน ๆ หลายคนที่คงจะ กำลังเบื่อกับ เกมที่เล่นอยู่ และกำลังมองหาเกม Open-World ที่มีความน่าสนใจ สามารถติดตาม เกมนี้กันต่อได้จาก บทความรีวิวเกม หรือช่องทางของ การรีวิวต่าง ๆ กันได้นะคะ

และนอกจากนี้ ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ ที่ชอบที่จะ วิเคราะห์เกมแบบนี้ สามารถติดตาม บทความของเรา ได้ใหม่นะคะ รับรองได้ว่า จะไม่ทำให้เพื่อน ๆ ต้องผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ

เรียบเรียงโดย NANAMI

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *